สารบัญเนื้อหา
เราเห็นได้ชัดว่าอันตรายหรืออุบัติเหตุนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ในที่ทำงานที่เต็มไปด้วยเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งพนักงานมักจะต้องมีส่วนร่วมในการใช้งานเครื่องจักรหรืออุปกรณ์นั้นๆด้วย
โดยงานส่วนใหญ่ของออฟฟิศจะเป็นงานที่จะสามารถทำเสร็จโดยการนั่งอยู่บนเก้าอี้ ในอาคารสำนักงานหรือที่เราเรียกกันว่า ออฟฟิศ ซึ่งการทำงานในออฟฟิศนั้นดูไม่ค่อยอันตราย มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุน้อย แต่อย่างไรก็ตามจำนวนของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในออฟฟิศก็ไม่น้อยเลย
และนี่คือ 20 ขั้นตอน คุณสามารถนำไปปรับใช้เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุซึ่งนำไปสู่การบาดเจ็บของพนักงานในออฟฟิศ
การล้ม
การล้มจากการลื่นหรือสะดุด เป็นสาเหตุอันดับต้นๆของการบาดเจ็บในออฟฟิศเลยก็ว่าได้ โดยเราสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดการล้มได้โดยการสร้างความตระหนักให้พนักงานในการทำงานในเรื่องต่างๆดังนี้
ไม่เกะกะ
กล่องเอกสารหรือสิ่งของต่างๆที่วางอยู่ในทางเดินสามารถทำให้เกิดการสะดุดได้ เราต้องเก็บสิ่งของเหล่านั้นให้ดี มิดชิด และอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อป้องกันความเกะกะใน นอกจากนี้สิ่งที่เป็นตัวอันตรายมากๆอีกอย่างหนึ่งก็คือสายไฟที่พาดผ่านทางเดิน เราต้องแน่ใจว่าสายไฟทั้งหมดได้รับการป้องกันอย่างถูกต้องและเรียบร้อย
ไม่ยืนบนเก้าอี้
การยืนบนเก้าอี้นั้นเสี่ยงต่อการล้มเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเก้าอี้สำนักงานที่มีล้อ พนักงานที่ต้องการหยิบของในที่สูงควรใช้บันไดในการปีนขึ้นไปหยิบ และบันไดนั้นต้องกางอย่างเต็มที่และวางในตำแหน่งที่มั่นคงที่เพื่อหลีกเลี่ยงการล้มของบันได
รักษาทัศนวิสัย
พนักงานสามารถเดินชนกันเมื่อเลี้ยว หรือ เมื่อเดินตามมุมอับสายตา โดยเราแนะนำให้ติดกระจกนูนที่ทางแยกเพื่อช่วยลดอุบัติเหตุการเดินชนกัน พนักงานจะสามารถเห็นได้ว่าใครกำลังเดินมา
กันลื่น
พรมและพื้นผิวที่ต้านการลื่นอื่นๆสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการลื่นล้มได้ หินอ่อนหรือกระเบื้องจะลื่นมากๆ โดยเฉพาะตอนที่พื้นเปียก การปูพรมจะเป็นประโยฃน์อย่างมากที่ทางเข้า เพราะพนักงานเดินจากข้างนอกมา รองเท้าอาจจะเปียกหรือเลอะอะไรบางอย่างที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุลื่นล้มได้ง่ายๆ
การกระแทกกับสิ่งของแรงๆ
การกระแทกก็เป็นอุบัติเหตุที่ทำให้พนักงานบาดเจ็บอีกประเภทหนึ่งที่พบบ่อย ซึ่งจากสถิติการบาดเจ็บนั้นก็มีบันทึกว่ามีอุบัติเหตุประเภทนี้จำนวนไม่น้อยเกิดขึ้นในออฟฟิศ เราสามารถหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุประเภทนี้ได้ดังนี้
ปิดลิ้นชัก
ตู้เก็บเอกสารที่มีลิ้นชักเปิดกว้าง ไม่ยอมปิดหลังใช้งานเสร็จนั้น สามารถทำให้พนักงานบาดเจ็บได้หากพนักงานเดินอย่างไม่ระมัดระวัง อาจจะเตะหรือชนเข้ากับลิ้นชักที่เปิดค้างอยู่จนได้รับการบาดเจ็บได้ ดังนั้นเราควรจะปิดลิ้นชักให้สนิททุกครั้งหลังจากใช้งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ซ้อนสิ่งของอย่างปลอดภัย
การซ้อนสิ่งของอย่างถูกต้องสามารถช่วยลดจำนวนการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นในสำนักงานได้อย่างมาก การที่ซ้อนสิ่งของขนาดใหญ่หรือหนักไว้ด้วยกันอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุและทำให้เกิดการบาดเจ็บแก่พนักงานได้หากสิ่งของเหล่านั้นหล่นลงมากระแทกถูกพนักงาน โดยเราแนะนำให้วางสิ่งของที่มีน้ำหนักเยอะหรือขนาดใหญ่ไว้ใกล้กับพื้นที่สุด
การบาดเจ็บจากงาน
การบาดเจ็บที่แพร่หลายที่สุดในออฟฟิศอาจเกี่ยวข้องกับงาน เนื่องจากพนักงานออฟฟิศจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการนั่งอยู่ที่โต๊ะ และทำงานอยู่กับคอมพิวเตอร์ทั้งวัน พนักงานเหล่านี้จึงมีแนวโน้มที่จะเกิดการบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับการนั่งอยู่ที่เดิมนานๆ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ ออฟฟิศซินโดรม โดยอาการบาดเจ็บพวกนี้สามารถหลีกเลี่ยงได้ดังนี้
ใช้อุปกรณ์ที่ปรับได้
ความสามารถในการปรับอุปกรณ์ต่างๆเป็นกุญแจสำคัญในการลดการบาดเจ็บจาก ออฟฟิศซินโดรม อุปกรณ์ที่ใช้ทำงานอย่างเช่น เก้าอี้ โต้ะ หน้าจอคอมพิวเตอร์ และอื่นๆ ทั้งหมดควรปรับเพื่อให้รองรับกับความหลากหลายของพนักงานมากที่สุด อุปกรณ์ที่กล่าวมานี้อาจมีราคาสูงสักหน่อย แต่ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะมันไม่คุ้มหรอกถ้าหากคุณบาดเจ็บขึ้นมา และต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล
อบรมพนักงานเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์
การจัดหาอุปกรณ์ที่ปรับได้นั้นเป็นเพียงขั้นตอนแรกในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะแก่การทำงาน แต่ปัญหาที่จะตามมาอีกนั่นก็คือ พนักงานไม่สามารถปรับอุปกรณ์ของตัวเองให้เหมาะสมกับตัวเองได้ เราจึงควรอบรมพนักงานเกี่ยวกับการปรับอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับการทำงานของแต่ละคน
วางเท้าสัมผัสพื้นขณะทำงาน
บ่อยครั้งที่พนักงานวางคีย์บอร์ดไว้สูงเกินไปจนต้องปรับเก้าอี้ให้สูงตามถึงขนาดที่ว่าเท้าลอยขึ้นจากพื้น นั่นจะทำให้เกิดการบาดเจ็บจากการกดทับเพราะเท้าไม่ถึงพื้นมันทำให้ไม่สามารถลดแรงกดจากการนั่งนานๆได้ โดยเราแนะนำให้ลดระดับของคีย์บอร์ดลงมา หรือ ให้ใช้อะไรบางอย่างรองที่พื้นให้เท้านั้นสัมผัสกับพื้นผิว
ใช้แสตนด์วางเอกสาร
การพิมพ์งานจากข้อมูลบนกระดาษบ่อยๆอาจนำไปสู่อาการปวดคอ เนื่องจากขณะพิมพ์พนักงานต้องวางกระดาษที่เป็นต้นแบบไว้กับโต๊ะ และพนักงานต้องมองที่โต๊ะและมองกลับไปที่หน้าจอหรือคีย์บอร์ดซ้ำๆ โดยหากใช้แสตนด์วางเอกสารยังช่วยสามารถรักษาสายตาของพนักงานได้อีกด้วย เนื่องจากการเป็นการช่วยลดการเปลี่ยนโฟกัสของสายตาเมื่อเปลี่ยนจากมองกระดาษบนโต๊ะมาที่จอคอมพิวเตอร์
เปลี่ยนการวางเมาส์
พนักงานบางคนอาจจะวางเมาส์ไว้สูงเกินไป อย่างเช่น คีย์บอร์ดวางอยู่ที่ลิ้นชักสำหรับคีย์บอร์ด แต่เมาส์อยู่บนโต๊ะ นั่นจะทำให้ไหล่และคอบาดเจ็บหากทำงานไปนานๆ โดยเราแนะนำให้วางเมาส์ไว้ด้านข้างคีย์บอร์ดเสมอ
ปัญหาการมองเห็น
การทำงานกับคอมพิวเตอร์นานๆจะทำให้เกิดอาการปวดตา ดวงตาอาจแห้งและระคายเคือง และพนักงานอาจมีปัญหาในการโฟกัส โดยการปรับบางอย่างจะช่วยบรรเทาปัญหาเหล่านี้ได้
ลดแสงและใช้งานโคมไฟ
ไฟจากหลอดไฟในสำนักงานมักจะสว่างเกินไปสำหรับการมองเห็นที่ดีที่สุด โดยปกติคนเราจะต้องการแสงสว่างเพียงครึ่งหนึ่งของที่ออฟฟิศเปิดเท่านั้น โดยเราแนะนำให้ลดแสงจากพวกหลอดไฟบนเพดานลง โดยการปิดบางส่วนในขณะที่พนักงานทำงาน โดยตามทางเดินให้ใช้พวกโคมไฟต่างๆเพื่อให้แสงสว่างในออฟฟิศ โดยไม่เพิ่มแสงสว่างในจุดทำงาน
จัดวางจอคอมพิวเตอร์อย่างถูกต้อง
เราแนะนำให้วางจอคอมพิวเตอร์ให้ต่ำกว่าระดับสายตาเล็กน้อย และห่างจากดวงตาประมาณ 20-26 นิ้ว
ลดแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์
สาเหตุหลักของการปวดตาจากการทำงานกับคอมพิวเตอร์ก็คือแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพื่อหลีกเลี่ยงการปวดตา เราควรหลีกเลี่ยการวางตำแหน่งจอไว้ตรงข้ามกับหน้าต่างที่เปิดอยู่ หากไม่สามารถทำได้ก็ให้ปิดม่านหรือมู่ลี่เพื่อลดแสงจากด้านนอกก็ได้
สวมแว่นตาที่เหมาะสม
การทำงานควรวางจอไว้ในความไกลระดับปกติ และใส่แว่นตาที่เหมาะสม เพื่อที่จะทำให้มองเห็นภาพจากจอได้ชัดโดยที่ไม่ต้องยืดคอเข้าหาจอเพื่อทำงาน
เพิ่มขนาดตัวอักษร
ขนาดตัวอักษรที่เล็กสามารถทำให้คุณปวดตาและปวดคอได้ เนื่องจากพนักงานมักจะยื่นหัวไปข้างหน้าในเวลาที่พวกเขามองจอไม่ค่อยชัด หรือ ตัวอักษรเล็กเกินไป การปรับขนาดตัวอักษรบนคอมพิวแตอร์นั้นง่ายมาก และสามารถกำจัดความต้องการที่จะยื่นหัว และการปวดตาได้
หยุดพัก
พักสายตาและปล่อยให้พนักงานมองไปรอบๆดูสิ่งต่างๆที่อยู่ในระยะต่างกันสามารถช่วยลดความเครียดและความเหนื่อยล้าได้ โดยเราแนะนำให้หยุดพักประมาณ 10 นาทีทุกชั่วโมงที่ใช้คอมพิวเตอร์
ความปลอดภัยจากอัคคีภัย
อัคคีภัยนั้นก่อให้เกิดการเสียชีวิตและบาดเจ็บ การตรวจสอบรอบๆออฟฟิศสามารถช่วยลดโอกาศในการเกิดเพลิงไหม้ได้ในระดับหนึ่ง
รักษาสายไฟไว้ในสภาพที่ดี
สายไฟที่เสียหายนั้นเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดเพลิงไหม้อย่างรุนแรงได้ ควรมีการตรวจสอบสายไฟอย่างสม่ำเสมอเพื่อดูว่าสายไฟที่ใช้อยู่นั้นมีการสึกหรอหรือไม่ และถ้าขาที่ 3 บนหัวปลั้กชำรุด เราก็ไม่ควรที่จะใช้เช่นเดียวกัน และดูว่าการพ่วงปลั้กนั้น พ่วงเยอะเกินไปหรือไม่
ห้ามมีสิ่งกีดขวางหัวสปริงเกอร์
เฟอร์นิเจอร์และสิ่งของต่างๆในออฟฟิศสามารถกัดขวางสปริงเกอร์ได้และทำให้ประสิทธิภาพของสปริงเกอร์ลดลง โดยเราแนะนำว่า ไม่ควรวางสิ่งของใดๆสูงกว่า 18 นิ้ว ใต้หัวสปริงเกอร์ เพื่อให้สปริงเกอร์สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่
ห้ามมีสิ่งกีดขวางทางหนีไฟ
ไม่ควรเก็บของไว้ในเส้นทางหนีไฟ เส้นทางหนีไฟควรจะไม่มีอะไรวางเกะกะเลย และไม่ควรเปิดประตูทางหนีไฟทิ้งไว้ด้วย และนอกจากนี้ ที่ออฟฟิศควรมี ป้ายไฟทางออก ป้ายทางหนีไฟไว้ด้วย โดยทาง Protecthai มีจำหน่าย (:
ขอบคุณบทความดีๆจาก https://www.safetyandhealthmagazine.com/
Pingback: 3 วิธีง่ายๆ เพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน | Protecthai